3 เคล็ดลับการระบายอากาศเพื่อต่อสู้กับมลพิษทางอากาศภายในอาคาร

บ้านก็เป็นสถานที่ปิดสนิทมากขึ้นเช่นเดียวกันในปัจจุบัน เนื่องจากใช้ระบบการทำความร้อนและเครื่องปรับอากาศตลอดทั้งปี รวมทั้งความต้องการประหยัดพลังงาน แต่บ้านที่ปิดสนิทสามารถกักเก็บสิ่งเหล่านี้เอาไว้ข้างในได้อย่างง่ายดาย ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของอากาศภายในบ้านของคุณ

อ่านเคล็ดลับการระบายอากาศที่จะช่วยแทนที่อากาศเสียด้วยอากาศบริสุทธิ์สดชื่น

พัดลมดูดอากาศดึงเอาอากาศจากบริเวณรอบๆ และระบายอากาศออกไปข้างนอก (แนวปฏิบัติที่เรียกว่า “การระบายอากาศเฉพาะจุด”) ห้องครัวและห้องน้ำควรจะมีพัดลมดูดอากาศ ใช้พัดลมในห้องครัวถึงแม้ว่าจะมีเสียงดังก็ตาม เพราะนั่นก็คือเสียงของการระบายอากาศที่ดี เปิดพัดลมในห้องน้ำหลังจากที่อาบน้ำเป็นเวลาอย่างน้อย 45 นาที

เมื่ออากาศภายนอกเย็นและแห้งกว่าอากาศภายในอาคารให้เปิดหน้าต่างและปล่อยให้มีอากาศบริสุทธิ์ไหลผ่าน ถ้าข้างนอกลมไม่แรง ให้ใช้พัดลมหน้าต่างหรือสำหรับบ้านทั้งหลังเป็นพัดลมเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของอากาศได้ดีขึ้น ทั้งเข้าและออกจากบ้าน ถ้าบ้านของคุณมีมากกว่าหนึ่งชั้นให้ทดลองสิ่งที่เรียกว่า “การวางซ้อน” หรือ “ปล่องไฟ” ในคืนที่หนาวเย็นเพื่อให้อากาศไหลได้ดีขึ้น เปิดหน้าต่างชั้นล่างเพื่อให้อากาศเย็นไหลเข้าและชั้นบนเพื่อให้อากาศร้อนไหลออก

ระบบทำความร้อนและความเย็นส่วนใหญ่ไม่สามารถขจัดความชื้นในอากาศได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นคุณควรใช้เครื่องลดความชื้นแบบสำหรับบ้านทั้งหลังหรือห้องเดียวเพื่อลดความเป็นไปได้ในการเกิดเชื้อรา เปลี่ยนแผ่นกรองอากาศอย่างน้อย 4 ครั้งต่อปี และบ่อยครั้งขึ้น หากบ้านของคุณมีปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพอากาศ และทำความสะอาดพรมด้วยเครื่องดูดฝุ่นที่ผ่านการกรองด้วย HEPA เป็นประจำ

แหล่งที่มาของฟอร์มาลดีไฮด์ที่สำคัญภายในบ้านเกิดจากผลิตภัณฑ์จากไม้อัดที่มียางยูเรีย-ฟอร์มาลดีไฮด์ (UF) เช่น ไม้บอร์ด ไม้อัด ไม้อัดเนื้อแข็ง และแผ่นใยไม้อัดความหนาแน่นปานกลางที่ใช้ในเฟอร์นิเจอร์ ตู้ ไม้พื้น แผง และลิ้นชัก มีสารเคมีที่เป็นอันตรายอื่นๆ อีกหลายชนิดถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในทุกวัน สี กาวในงานอดิเรก และตัวทำละลาย ในสระน้ำ และสารเคมีในสวน ผลิตภัณฑ์ดูแลตนเอง และน้ำหอมปรับอากาศมาตรฐาน

ความจริงเราอาจสัมผัสกับสารมลพิษหลายสิบชนิดก่อนที่เราจะได้ดื่มกาแฟแก้วแรก แต่ไม่ต้องตกใจ นี่คือ 3 กลยุทธ์ในการลดมลพิษในบ้านของคุณ ทำตามขั้นตอนง่ายๆ เหล่านี้แล้วคุณจะสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่มีสุขภาพที่ดีขึ้นให้กับทุกคนในครอบครัวได้

• เปิดพัดลมดูดอากาศในห้องครัวและห้องน้ำเพื่อขจัดกลิ่นและป้องกันสภาพชื้นที่สามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของราและเชื้อราได้ เปิดพัดลมดูดอากาศออกไปด้านนอกเมื่อใดก็ตามที่เป็นไปได้
• สำหรับโครงการปรับปรุงที่อยู่อาศัยต่อไปของคุณ ให้ใช้สีที่มี VOC ต่ำเพื่อลดระดับก๊าซที่เป็นพิษออกจากสีแห้ง
• ทำความสะอาดรางน้ำและท่อระบายน้ำเพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อราสีดำซึ่งสามารถกระจายไปทั่วหลังคา ผนังด้านข้าง และผนังด้านในได้ในที่สุด

• ปรับปรุงการไหลเวียนของอากาศใต้ถุนบ้านของคุณที่สามารถคลานลอดได้ เพื่อป้องกันการเติบโตของเชื้อราที่เป็นพิษหรือเน่าเปื่อย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าช่องว่างที่คลานรอดได้ที่ปิดทึบมีการระบายอากาศที่พอเพียงและทั้งช่องว่างที่ปิดทึบและเปิดโล่งมีพัดลมระบายอากาศเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของอากาศ
• รักษาความชื้นในบ้านให้อยู่ที่ระดับ 30 ถึง 50 เปอร์เซ็นต์เพื่อป้องกันสภาพชื้นที่อาจนำไปสู่การเกิดราที่ไม่ดีต่อสุขภาพและเชื้อรา (วิธีง่ายๆ คือวัดด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิ-ความชื้นที่มีขายในร้านอุปกรณ์ทั่วไปเป็นประจำ)
• สำหรับบ้านก่อสร้างใหม่ ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าบ้านของคุณมีอากาศเย็นไหลเวียนอย่างเพียงพอ นอกจากนี้ ให้จัดภูมิทัศน์ภายนอกห่างออกไปจากตัวบ้านพอสมควร เพื่อให้มีการไหลเวียนของอากาศที่ใต้ถุนอย่างเพียงพอเมื่อพืชเติบโต

• ติดตั้ง Filtrete™ Air Cleaning Filter ซึ่งใช้เทคโนโลยี 3-อิน-1 ของแบรนด์ Filtrete พิเศษจาก 3เอ็ม เพื่อดูดและดักอนุภาคและมลพิษไม่พึงประสงค์ เช่น ฝุ่น ละอองเกสร ไรฝุ่น และสะเก็ดผิวหนังของสัตว์เลี้ยง ในขณะที่ปล่อยให้อากาศสะอาดไหลผ่าน อย่าลืมเปลี่ยนแผ่นกรองอย่างน้อยทุกสามเดือน
• ใช้ระบบ HVAC ของคุณเป็นเครื่องฟอกอากาศทั้งบ้านโดยติดตั้งในระบบพัดลมเมื่อไม่ได้ใช้เพื่อทำความร้อนหรือทำความเย็น
• ใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติการกรองตามธรรมชาติของต้นไม้ประดับในบ้าน ซึ่งผลิตออกซิเจนโดยการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เบนซิน ฟอร์มาลดีไฮด์ และสารเคมีอันตรายอื่นๆ พืชเช่น ตีนตุ๊กแกฝรั่ง เศรษฐีเรือนใน ฟิโลเดนดรอน เบญจมาศ ต้นยาง และไทรย้อยเป็น ต้นไม้ประดับในบ้านทั่วไปที่ได้รับการยอมรับในความสามารถในการกรอง