การระบายอากาศได้ถูกกำหนดคำนิยามไว้ง่ายๆ ว่าคือการแทนที่อากาศเสียด้วยอากาศดี
เป็นเรื่องปกติที่บ้านจะมีอากาศเสีย เนื่องจากทุกๆ อย่าง นับตั้งแต่ ฝุ่น ละอองเรณู และสารมลพิษอื่นๆ ที่ปลิวมาจากภายนอก ฟอร์มาลดีไฮด์ สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOC) และสารที่เป็นอันตรายอื่นๆ ที่เกิดจากอุปกรณ์ทำความสะอาดและเฟอร์นิเจอร์ในครัวเรือนในปัจจุบัน คาร์บอนมอนอกไซด์ ไนโตรเจนไดออกไซด์ ความชื้นก่อให้เกิดเชื้อรา และสิ่งอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในกิจกรรมประจำวัน เช่น การทำอาหาร การอาบน้ำ และแม้แต่การหายใจ
บ้านก็เป็นสถานที่ปิดสนิทมากขึ้นเช่นเดียวกันในปัจจุบัน เนื่องจากใช้ระบบการทำความร้อนและเครื่องปรับอากาศตลอดทั้งปี รวมทั้งความต้องการประหยัดพลังงาน แต่บ้านที่ปิดสนิทสามารถกักเก็บสิ่งเหล่านี้เอาไว้ข้างในได้อย่างง่ายดาย ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของอากาศภายในบ้านของคุณ
อ่านเคล็ดลับการระบายอากาศที่จะช่วยแทนที่อากาศเสียด้วยอากาศบริสุทธิ์สดชื่น
พัดลมดูดอากาศดึงเอาอากาศจากบริเวณรอบๆ และระบายอากาศออกไปข้างนอก (แนวปฏิบัติที่เรียกว่า “การระบายอากาศเฉพาะจุด”) ห้องครัวและห้องน้ำควรจะมีพัดลมดูดอากาศ ใช้พัดลมในห้องครัวถึงแม้ว่าจะมีเสียงดังก็ตาม เพราะนั่นก็คือเสียงของการระบายอากาศที่ดี เปิดพัดลมในห้องน้ำหลังจากที่อาบน้ำเป็นเวลาอย่างน้อย 45 นาที
เมื่ออากาศภายนอกเย็นและแห้งกว่าอากาศภายในอาคารให้เปิดหน้าต่างและปล่อยให้มีอากาศบริสุทธิ์ไหลผ่าน ถ้าข้างนอกลมไม่แรง ให้ใช้พัดลมหน้าต่างหรือสำหรับบ้านทั้งหลังเป็นพัดลมเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของอากาศได้ดีขึ้น ทั้งเข้าและออกจากบ้าน ถ้าบ้านของคุณมีมากกว่าหนึ่งชั้นให้ทดลองสิ่งที่เรียกว่า “การวางซ้อน” หรือ “ปล่องไฟ” ในคืนที่หนาวเย็นเพื่อให้อากาศไหลได้ดีขึ้น เปิดหน้าต่างชั้นล่างเพื่อให้อากาศเย็นไหลเข้าและชั้นบนเพื่อให้อากาศร้อนไหลออก
ระบบทำความร้อนและความเย็นส่วนใหญ่ไม่สามารถขจัดความชื้นในอากาศได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นคุณควรใช้เครื่องลดความชื้นแบบสำหรับบ้านทั้งหลังหรือห้องเดียวเพื่อลดความเป็นไปได้ในการเกิดเชื้อรา เปลี่ยนแผ่นกรองอากาศอย่างน้อย 4 ครั้งต่อปี และบ่อยครั้งขึ้น หากบ้านของคุณมีปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพอากาศ และทำความสะอาดพรมด้วยเครื่องดูดฝุ่นที่ผ่านการกรองด้วย HEPA เป็นประจำ